3 สาเหตุสำคัญที่จะพา ETH ไปถึง $5000 ETH เป็นเหรียญดั้งเดิมของเครือข่ายบล็อกเช่นชั้นนำ Ethereum โดยเราได้เห็นการลดลงของราคามากกว่า -20% หลังจากขึ้นไปทำสถิติสูงสุดที่ประมาณ $4,867 เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 และราคาก็ลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม การปรับฐานที่รุนแรงของ ETH ก็ไม่ได้หมายความว่า ETH จะไม่สามารถกลับขึ้นไป ATH ครั้งใหม่ได้ในอนาคต เพราะจากตัว
ชี้วัดทางเทคนิค เศรษฐกิจมหภาค และห่วงโซ่อุปทานที่มีการติดตาม ETH อย่างใกล้ชิดได้พบว่า “แนวโน้มของขาขึ้นที่ชัดเจนใน ETH นั้นกำลังใกล้เข้ามา” หนึ่งในตัวชี้วัดเหล่านี้คาดการณ์ว่า ราคาของ ETH จะสามารถขึ้นไปแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์ได้ภายในไตรมาสแรกของปี 2022 ในขณะที่ตัวชี้วัดอื่นๆก็มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนแนวคิดนี้และนี่คือ 3 สาเหตุสำคัญที่จะพา ETH ไปถึง $5,000
1. ราคาของ ETH อยู่ในรูปแบบ Falling wedge
การลดลงล่าสุดของ ETH กำลังสร้าง Price Pattern การกลับตัวสู่ความ Bullish แบบคลาสสิกอันน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งที่เรียกว่า “Falling wedge”Falling wedge เป็นผลให้การเคลื่อนไหวของราคานั้นสร้างรูปทรงกรวยที่มีแนวโน้มลดลง
และเมื่อนักลงทุนตระหนักถึงการ Breakout ที่ใกล้เข้ามา การทะลุแนวต้านของ Falling wedge ก็จะเกิดขึ้น และเราอาจจะได้เห็นการพุ่งขึ้นที่น่าสนใจของ ETH ซึ่งอาจจะสร้างโมเมนตัมขาขึ้นที่น่สนใจและสามารถพา ETH พุ่งทะยานสู่ $5,000 ได้อย่างไม่ยากเย็น
2. อุปทานของ ETH ในกระดานเทรดต่างๆนั้นลดลงอย่างมหาศาลโดยทั่วไปแล้ว นักลงทุนนั้นจะย้ายเหรียญของตนไปยังกระดานเทรดต่างๆเมื่อพวกเขาตั้งใจที่จะขาย/แลกเปลี่ยนเหรียญเหล่านั้นเป็นเงิน fiat, stablecoins หรือสกุลเงินดิจิทัลชนิดอื่นๆ ดังนั้น จำนวนธุรกรรมที่สูงขึ้นในแพลตฟอร์มการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลนั้นจะสะท้อนถึงความต้องการเทขายที่สูงขึ้นในตลาด ในทางกลับกัน หากการทำธุรกรรมหรือการย้ายเหรียญต่างๆเข้าไปในกระดานเทรดนั้นนลดลงแสดงว่ามีความเชื่อมั่นในการถือครองที่แข็งแกร่งในตลาด
ข้อมูลที่รวบรวมโดยบริการวิเคราะห์บล็อคเชนอย่าง Glassnodeได้ แสดงให้เห็นว่าจำนวน ETH ที่อยู่บนเครือข่ายของกระดานเทรดต่างๆนั้นลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 23 เดือนในวันที่ 3 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ตัวชี่วัดของ Glassnode อีกตัวหนึ่งที่ติดตามจำนวนที่อยู่ต่างๆที่ส่ง ETH ไปยังกระดานเทรดยังรายงานอีกว่า การโยกย้ายสินทรัพย์อันดับ 2 ของสกุลเงินดิจิทัลนั้นลดลงในช่วง 30 วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ราคาของ ETH นั้นลดลงเกือบ 11%ยิ่งไปกว่านั้น ยอดดุลของ ETH ทั้งหมดในกระดานเทรดก็ยังอยู่ในช่วงขาลงตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2563 ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุนใน ETH นั้นตั้งใจที่จะถือสินทรัพย์ของพวกเขาในระยะยาวและไม่ได้โยกย้ายสินทรัพย์ของพวกเขามายังกระดานเทรดเพื่อเทขาย
3. อัตราของเงินเฟ้อที่เพิ่มมากขึ้นนั้นส่งผลดีต่อ ETHการดิ่งลง $1,000 บวกของ Ether ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 จนถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของธนาคารกลางสหรัฐและความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นของนักลงทุนธนาคารกลางสหรัฐฯตัดสินใจเร่งการผ่อนคลายโครงการซื้อสินทรัพย์
มูลค่า 120,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือนตามด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 3 ครั้งในปี 2565 เพื่อยับยั้งเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น
ในช่วงปี 2563-2564 รัฐบาลสหรัฐได้ออกนโยบายการเงินขึ้นมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากที่ทั่วทั้งโลกต้องเผชิญกับการระบาดครั้งใหญ่ของโควิด-19 และนั้นก็เป็นหนึ่งในตัวเร่งปฏิกิริยาหลักที่อยู่เบื้องหลังการพุ่งขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลต่างๆมากมาย เช่น Ethereum, Bitcoin หรือเหรียญชั้นนำอื่นๆ เนื่องจากความกังวลในอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มมากขึ้น
แต่ความพยายามของเฟดในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อจากระดับ 6.8% ในปัจจุบันด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสามครั้งภายในปี 2565 นี้อาจจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคา Bitcoin และ Ethereum ในระยะยาว Antoni Trenchev หุ้นส่วนของ Nexo ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงเหตุการ์เหล่านี้ว่า: “ปัจจัยที่มีอิทธิพลอันดับ 1 สำหรับ
Bitcoin และ cryptocurrencies ในปี 2022 คือนโยบายของธนาคารกลาง”
เขาได้กล่าวเสริมอีกว่า: “อัตราเงินเฟ้อได้อยู่ที่นี่แล้วและมันก็มีผลกระทบอย่างมากต่อมูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลอย่างมีนัยสำคัญ”ตามมาด้วย Thomas Peterffy มหาเศรษฐีชาวฮังการีที่ออกมากล่าวอีกว่า “นักลงทุนควรจัดสรรพอร์ตของพวกเขาอย่างน้อย 2%–3% ให้กับสกุลเงินดิจิทัล เช่น BTC และ ETH เพราะตอนนี้เงิน Fiat นั้นกำลัง “สูญเสียมูลค่าราวกับตกนรก”
นอกจากนี้ Ray Dalio ผู้ก่อตั้งบริษัท Bridgewater Associates เปิดเผยว่าเขาถือ BTC และ ETH ไว้ในพอร์ตของเขาเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลและทำให้มูลค่าของเงิน Fiat นั้นด้อยค่าลงทุกวัน แล้วเพื่อนๆผู้อ่านทุกท่านล่ะครับ คิดว่า ETH จะสามารถไปได้ไกลแค่ไหน
3 สาเหตุสำคัญที่จะพา ETH ไปถึง $5000
แหล่งที่มา : ทันโลกกับ Trader KP
Website : www.bestbroker168.com
Facebook.com: bestbroker168
Instagram.com: bestbroker168
Line ID : @bestbroker168
