29.5 C
Thailand
วันเสาร์, เมษายน 20, 2024
- Advertisement -spot_img

50,000 รางวัลนำจับ “กิติกร” แชร์ลูกโซ่ P MINER พบเบาะแส หนีไปประเทศเพื่อนบ้าน

50,000 รางวัลนำจับ “กิติกร” แชร์ลูกโซ่ P MINER พบเบาะแส หนีไปประเทศเพื่อนบ้าน : กรณี นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาตัวแทนผู้เสียหายกว่า 30 คน ที่ถูกหลอกลงทุนจากเว็บไซต์ P MINER (ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี มายเนอร์ คริปโตเคอเรนซี่ กรุ๊ป) ที่มี นายกิติกร อินต๊ะ เป็นซีอีโอ เบื้องต้น พบมูลค่าความเสียหายรวมทั้งสิ้นกว่า 1,000 ล้านบาท จากการตรวจสอบเฟซบุ๊กของ นายกิติกร พบว่า มีการโพสต์ว่า จะหยุดการปันผลให้กับผู้ร่วมลงทุน พร้อมกับขายทรัพย์สินบางส่วน อาทิ รถหรู เพื่อนำเงินมาคืนให้ผู้เสียหาย ก่อนที่จะติดต่อไม่ได้อีก

น.ส.ภัคจิรา (สงวนนามสกุล) หนึ่งในผู้เสียหาย ที่สูญเงินกว่า 10 ล้านบาท เปิดเผยว่า รู้จักนายกิติกร จากเฟซบุ๊ก เนื่องจากเจ้าตัวชอบโพสต์การปันผล แสดงความร่ำรวย และเครือข่ายความน่าเชื่อถือกับผู้ใหญ่ จึงทำให้เชื่อถือ และตัดสินใจร่วมลงทุน ที่ผ่านมาได้รับการปันผลมาตลอด กระทั่งพบ

ข้อความที่นายกิติกรประกาศจะหยุดปันผล ตกใจ พยายามติดต่อ แต่ก็ติดต่อไม่ได้ ไปที่บ้านก็ไม่พบ พบแต่ทรัพย์สิน คือรถหรูที่จอดไว้
นอกจากนี้เฟซบุ๊กเพจ “หน่วยป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์” ได้โพสต์ ว่า “50,000 บาท สำหรับเบาะแส ที่สามารถนำไปสู่การจับกุม นายกิติกร ซึ่งเบาะแสล่าสุดอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านแล้ว

50,000 รางวัลนำจับ "กิติกร" แชร์ลูกโซ่ P MINER พบเบาะแส หนีไปประเทศเพื่อนบ้าน

วันที่ 30 ส.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาตัวแทนผู้เสียหายกว่า 30 คน ที่ถูกหลอกลงทุนจากเว็บไซต์ P MINER (ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี มายเนอร์ คริปโตเคอเรนซี่ กรุ๊ป) ที่มี นายกิติกร อินต๊ะ เป็นซีอีโอ เบื้องต้นพบมูลค่าความเสียหายรวมทั้งสิ้นกว่า 1,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ Facebook ของ นายกิติกร พบว่า มีการโพสต์ข้อความแจ้งกับผู้ที่ติดตามเพจว่า จะหยุดการปันผลให้กับผู้ร่วมลงทุน พร้อมกับขายทรัพย์สินบางส่วน อาทิ รถหรู เพื่อนำเงินมาคืนให้ผู้เสียหาย ก่อนที่จะติดต่อไม่ได้อีก

น.ส.ภัคจิรา (ขอสงวนนามสกุล) 1 ในผู้เสียหาย ที่สูญเงินกว่า 10 ล้านบาท เปิดเผยว่า ตนรู้จัก นายกิติกร จากเฟซบุ๊ก เนื่องจากเจ้าตัวชอบโพสต์การปันผล แสดงความร่ำรวย และเครือข่ายความน่าเชื่อถือกับผู้ใหญ่ จึงทำให้เชื่อถือและตัดสินใจร่วมลงทุน ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการปันผลมาตลอด กระทั่งพบข้อความที่นายกิติกรประกาศจะหยุดปันผล ตกใจ พยายามติดต่อ แต่ก็ติดต่อไม่ได้ ไปที่บ้านก็ไม่พบ พบแต่ทรัพย์สิน คือรถหรูที่จอดไว้

ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวว่า กำลังชุดสืบสวน บช.สอท.สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ปปง. เข้าตรวจยึดทรัพย์สินของนายกิติกร ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ โดยเบื้องต้นตรวจยึดรถยนต์หรู 5 คัน ประกอบไปด้วย รถยี่ห้อปอร์เช่ ลัมโบร์กินี บีเอ็มดับบลิว เฟอร์รารี เบนท์ลีย์ นาฬิกาหรู บ้าน ที่ดิน และอายัดบัญชีกว่า 10 บัญชี รวมเป็นเงิน 101 ล้านบาท ขณะที่ไม่พบนายกิติกรและผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว แต่จากแนวทางสืบสวนยังไม่พบว่าผู้ต้องหาทั้งสามมีการเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี

นอกจากนี้เฟซบุ๊กเพจ “หน่วยป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์” ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “50,000 บาท สำหรับเบาะแสที่สามารถนำไปสู่การจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์, DSI และ ปปง. นายกิติกร อินต๊ะ เจ้าของแชร์ลูกโซ่ P miner ที่จังหวัดเชียงใหม่ เบาะแสล่าสุดอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านแล้ว กิติกร อินต๊ะ P Miner Cryptocurrency ออฟฟิเชียล”

 

ข้อมูลจาก : https://www.thairath.co.th/news/society/2486485

 

สมัคร XM

exness รีวิว

อ่านเพิ่มเติม: รีวิวโบรกเกอร์

สมัคร Exness

โบรกเกอร์ Exness

Website : www.bestbroker168.com
Facebook.com: bestbroker168
Instagram.com: bestbroker168

- Advertisement -spot_img
บทความที่เกี่ยวข้อง
- Advertisement -spot_img
spot_img
spot_img
บทความล่าสุด