Money Management คือ และ Position Sizing คือ ตลาดทองคำ Forex

การ Money Management คือ:

• การจัดการเงินทุนเพื่อเทรดอย่างเป็นระบบเพื่อรักษาเงินทุนเเละอยู่รอดในตลาด

การ Money Management มีประโยชน์ยังไง:

• หากมีการ Manage Money คุณสามารถเทรดทองคำในตลาด forex ได้อย่างปลอดภัย และโอกาสน้อยมากที่จะเกิดการล้างพอร์ต รวมถึงตลาดอื่นๆ คุณก็มีโอกาสที่จะอยู่รอดและทำกำไรได้มากขึ้น

การคำนวน Position Size คือ:

• การจัดการความเสี่ยงโดยจำกัด ผลของการขาดทุน การหา ขนาด lot size ให้เหมาะสมของแต่ละออเดอร์เพื่อให้ความเสี่ยงของพอร์ทมีความคงที่ ทำให้เวลาขาดทุน จะขาดทุนในอัตราส่วนที่เหมาะสม ให้การเติบโตของพอร์ตเป็นไปอย่างค่อยไปในรูปแบบของ “การเทรด” มากกว่า “การพนัน” ที่มักจะไม่มีการ Manage money

การคำนวน Position Size มีประโยชน์ยังไง:

• Position Sizing จะช่วยลดความเสี่ยงของการลงทุน การเติบโตของพอร์ตลงทุน สามารถเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพ เมื่อกำหนดความเสี่ยงเท่า ๆ กัน ทุกออเดอร์เป็นการป้องกันไม่ให้ขาดทุนจำนวนมาก หากขาดทุน สามารถกลับมาทำกำไรให้เงินเท่าเดิม หรือเพิ่มขึ้นได้ โดยไม่ลำบากมากนักสามารถเทรดได้ในระยะยาว ไม่ขาดทุน ถึงขั้นล้างพอร์ต แน่นอน

Risk and Reward:

• เป็นการคำนวนหาค่าความเสี่ยงที่จะได้รับและผลตอบแทนที่จะได้รับจากการลงทุน เพื่อมาพิจารณาว่าแผนการเทรดที่ท่านได้ทำการวางไว้คุ้มค่าที่จะลงทุนหรือไม่

จำนวนล็อตของราคาทอง 0.01 Lot ราคาเคลื่อนที่ขึ้นหรือลง 1$ จะได้หรือเสียเงิน 1$ 

ตัวอย่าง Money Management คือ ทุน 10,000 บาท, Risk and reward 1:2, win rate 40%, Stop loss 5%, Take profit 10% 

ตัวอย่าง Money Management คือ  ทุน 10,000 บาท, Risk and reward 1:2, win rate 60%, Stop loss 5%, Take profit 10% 

ตัวอย่าง ทุน 150,000 บาท, Risk and reward 1:2, win rate 40%, Stop loss 5%, Take profit 10% 

ตัวอย่าง ทุน 150,000 บาท, Risk and reward 1:2, win rate 60%, Stop loss 5%, Take profit 10% 

นาย A มีทุน 10,000 บาท แผนของนาย A คือขาดทุนได้ไม่เกิน 5% ของทุน นาย A ขาดทุนได้รอบละไม่เกิน 500 บาท , 500 บาท แปลงเป็นสกุลเงินดอลล่าจะได้ 15$ (02/03/2022) นาย A มีทุน 10,000 บาท จะเทรดผิดพลาดได้ 10,000/500= 20 ครั้ง

การคำนวน Position Size ราคาทอง Forex

จำนวนเงินที่จะได้รับหรือเสีย = (ความต่างของราคา * จำนวน lot size * 100)

เช่นแผนเทรดของนาย A

นาย A ตั้ง Stop loss ที่ราคา 1779 เปิดออเดอร์ Buy ที่ราคา 1794

ความต่างของราคาคือ 1794-1779=15

• หากนาย A เปิด Position size ที่ขนาด 0.01 นาย A จะเสีย 15$

• หากนาย A เปิด Position size ที่ขนาด 0.10 นาย A จะเสีย 150$

• หากนาย A เปิด Position size ที่ขนาด 0.50 นาย A จะเสีย 750$

นาย A ตั้ง Take Profit ไว้ที่ราคา 1855 เปิดออเดอร์ Buy ที่ราคา 1794

ความต่างของราคาคือ 1855-1794=61

• หากนาย A เปิด Position size ที่ขนาด 0.01 นาย A จะได้ 61$

• หากนาย A เปิด Position size ที่ขนาด 0.10 นาย A จะได้ 610$

• หากนาย A เปิด Position size ที่ขนาด 0.50 นาย A จะได้ 3050$

นาย A วางแผนไว้ว่าจะขาดทุนได้ไม่เกิน 5% ของทุน

• นาย A จะต้องเปิดขนาด Position Size ที่ 0.01 หากนาย A ขาดทุน นาย A จะขาดทุน 15$ หากนาย A ได้กำไรจะได้ 61$

คิดอัตราส่วน Risk and Reward จะได้ 1:4

……………………………………………………………………………………………………………………….

ตัวอย่างการคิดคำนวน Risk and Reward

นาย A มีทุน 10,000 บาท

แผนเทรดของนาย A: Stop loss 5% , Take profit 10%

เทรดแพ้จะเสียรอบละ 500 บาท เทรดชนะจะได้รอบละ 1,000 บาท

อัตราการชนะ : เล่น 30 ครั้ง เทรดชนะ 13 ครั้ง แพ้ 17 ครั้ง

Winrate: (43%)

กำไร: 13,000 บาท ขาดทุน 8,500 บาท กำไรสุทธิ 4,500 บาท (45%)

“จะเห็นได้ว่าอัตราการเทรดชนะต่ำกว่า 50% แต่นาย A ก็ยังมีกำไรถึง 4,500 บาท จากทุน 10,000 บาท ในการเทรด 30 ครั้ง เนื่องจาก นาย A ได้มีการวางแผน Risk and Reward มาแล้ว เวลาได้นาย A จะได้ 2 เท่า เวลาเสีย จะเสียแค่ 1 เท่า”