ไม้เรียวในมือสั่น ! พ่อนึกว่าโดนคอลเซนเตอร์ที่แท้ ลูกแอบเติมเกม สูญ 1.2 ล้าน

ไม้เรียวในมือสั่น ! พ่อนึกว่าโดนคอลเซนเตอร์ที่แท้ ลูกแอบเติมเกม สูญ 1.2 ล้าน เรื่องราวเกิดขึ้น ตั้งแต่วันที่ 7 – 25 ก.ค. 65 นายณรงค์ฤทธิ์ คงทอง อายุ 49 ปี พ่อค้าปุ๋ย จ.นครศรีธรรมราช ร้องขอความช่วยเหลือหลังลูกอายุ 10 ขวบ โดยถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกส่งหลักฐานส่วนตัว และโอนเงินจากบัญชีไปให้รวม 65 ครั้ง  เป็นเงินรวมกันกว่า 1,206,000 บาท

ซึ่งวันนี้ 1 ส.ค.65  พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และ พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท.5 ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ฐาปกรณ์ หนุมาศ ผกก.3 บก.สอท.5 เพื่อเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

ล่าสุด พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท.5 ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ฐาปกรณ์ หนุมาศ ผกก.3 บก.สอท.5 เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง พล.ต.ต.ชรินทร์ เปิดเผยว่า กรณีปรากฏข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจบก.สอท.5 ตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียรใหญ่ ร่วมกันตรวจสอบตามข่าวดังกล่าว โดยได้ทำการเชิญ นายณรงค์ฤทธิ์ และลูกชาย อายุ 10 ปี มาเพื่อสอบถามรายละเอียด และตรวจสอบการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้อง

ก่อนหน้านี้ นายณรงค์ฤทธิ์ ได้นำโทรศัพท์มือถือไปให้ลูกชายใช้เรียนออนไลน์ในช่วงที่มีแพร่ระบาดของโรคโควิด ซึ่งในการใช้งานแต่ละครั้ง นายณรงค์ฤทธิ์ ไม่ได้เฝ้าระวัง หรือตรวจสอบการใช้งานของลูกชายโดยใกล้ชิด

ลูกชายของผู้เสียหายได้นำโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวไปใช้ในการสมัครเล่นเกมออนไลน์ และซื้อไอเทมเกม ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อแต่ละครั้ง โดยการซื้อไอเทม ดังกล่าวเป็นการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-wallet)

จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า การทำธุรกรรมดังกล่าว เป็นการทำธุรกรรมโดยเจ้าของบัญชีเอง ซึ่งลูกชายอาจเป็นผู้ดำเนินการเองโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และ นายฤรงค์ฤทธิ์ ไม่ทราบถึงรายละเอียดขั้นตอนดังกล่าวแต่อย่างใด โดยขั้นตอนจะต้องมีการยืนยันตัวตนโดยการถ่ายภาพใบหน้าของ นายฤรงค์ฤทธิ์ เพื่อยืนยันข้อมูลในการสมัครเข้าใช้งาน ซึ่งในการชำระค่าสินค้าผ่านธุรกรรมออนไลน์ที่ตรวจพบ แบ่งเป็น 2 ส่วนด้วยกันคือ

1. เป็นการทำธุรกรรมทางด้านการเติมเงินเพื่อใช้ซื้อไอเทมเกม
2. เป็นการทำธุรกรรมทางด้านการสนับสนุนผู้ทำ Content ผ่านช่องทาง YouTube

การทำธุรกรรมแต่ละครั้งเป็นการกระทำผ่านอุปกรณ์ 2 เครื่อง ซึ่งเป็นอุปกรณ์ของ นายฤรงค์ฤทธิ์ ที่ได้มอบให้บุตรชายไว้ใช้งาน และจากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือเครื่องดังกล่าว พบว่ามีการใช้งานกับกระเป๋า E-wallet และแอปพลิเคชัน Mobile banking ซึ่งผูกบัญชีไว้ด้วยกัน

โดยสรุปเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำการตรวจสอบและอธิบายให้ทราบในรายละเอียดต่างๆให้กับ นายฤรงค์ฤทธิ์ ซึ่งผู้เป็นพ่อก็ทราบและเข้าใจดีว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นลูกชายของตนไม่ได้ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง แต่เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของลูกชายตนเองในการใช้บริการอินเทอร์เน็ต และเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชน ควรให้ความใส่ใจและควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด ในการใช้งานอินเทอร์เน็ตหรือการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของบุตรหลานของท่านเพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย

ที่มา : https://www.one31.net/news/detail/56823?fbclid=IwAR1yePDCxbZrLSHC2y_aGZX3VhqomieI6QHdB-ihXSRPnMYzorSE0flkqpE

: https://news.ch7.com/detail/585924

สมัคร XM

exness รีวิว

สมัคร Exness

โบรกเกอร์ Exness