แนวรับ แนวต้าน (Support & Resistance)
สารบัญวิธีการดูแนวรับแนวต้าน
การดูแนวรับแนวต้านมีวิธีดูได้อย่างไร?
แนวรับ=ระดับราคาที่มีคนต้องการซื้อมาก
แนวรับหรือ Support หมายถึงราคาต่ำสุดของราคาที่เป็นไปได้และคาดว่าจะเป็นราคาที่คนต้องการซื้อเป็นจำนวนมาก ทำให้มีแนวโน้มที่ราคาจากที่ปรับตัวลงจะกลับตัวเพิ่มสูงขึ้น
แนวต้าน =ระดับราคาที่มีคนต้องการขายมาก
แนวต้าน คือ ระดับของราคาหุ้นที่มีความต้องการขาย ในทางกลับการ แนวต้านหรือ Resistance เป็นราคาสูงสุดที่เป็นไปได้ที่ราคาหุ้นจะสามารถทำได้ ซึ่งนักลงทุนมองว่ากราฟราคาของหุ้นตัวนี้จะไม่สูงไปกว่านี้ได้ ซึ่งหากราคาหุ้นขึ้นไปถึงแนวต้านนี้ ก็มีแนวโน้มที่หุ้นจะกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลงได้
ถ้าราคาหุ้นเข้าใกล้แนวรับหรือแนวต้านมากๆ ก็มีโอกาสที่จะกลับตัวไปในทิศทางตรงกันข้าม
ท่านอาจจะใช้เทรนไลน์เป็นอีกหนึ่งในการช่วยวิเคราะห์
รูปแบบ แนวรับ แนวต้าน
จุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดก่อนหน้า (Previous High & Previous Low)
รูปแบบกราฟแนวรับแนวต้านจากจุดต่ำสุด ไปยังจุดสูงสุดจะช่วยบ่งบอกการเคลื่อนที่ของราคาในอดีต โดยจะช่วยให้นักลงทุนสามารถพิจารณาแนวต้านจากจุดสูงสุดของราคาก่อนหน้า และแนวรับด้วยจุดต่ำสุดของราคาก่อนหน้าได้นั่นเอง
เส้นแนวโน้ม (Trend Line)
· กราฟแนวรับแนวต้านที่แสดงรูปแบบของระดับราคาที่มีการเคลื่อนที่ในแนวราบ เป็นกราฟที่มีการซื้อขายกันในช่วงราคาแคบ ๆ แต่กินระยะเวลานาน จึงสามารถวิเคราะห์ออกมาได้ว่าในอดีตน่าจะมีคนจำนวนมากที่เคยซื้อ หรือเคยขายหุ้นในช่วงราคานี้เป็นจำนวนมาก
ตัวเลขกลม ๆ (Round Number)
เป็นการตั้งสมมุติฐานที่ว่า คนส่วนมากมักซื้อหรือขายหุ้นที่ราคาตัวเลขกลมๆ จึงมีนัยสำคัญใช้พิจารณาเป็นแนวรับ-แนวต้านเชิงจิตวิทยาด้วยเช่นกัน เช่นตั้ง Take Profit/Stop loss ไว้ที่ 1780 1790 จะไม่มีเศษ 1780.234 ถ้าจะเป็นเศษส่วนมากก็จะเป็น 1780.500 หรือจะตั้ง Order Buy Limit เป็นการซื้อออเดอร์ล่วงหน้าก็มักจะตั้งเป็นเลขกลมๆ เช่นเดียวกัน อาจจะเป็นเพราะเวลาคำนวณกำไรขาดทุน มันจะคิดง่ายก็เป็นได้
สัดส่วน Fibonacci (Fibonacci Ratio)
เป็นวิธีการหาราคาที่เป็นแนวรับ-แนวต้าน ที่ไม่สามารถอธิบายเหตุผลตามหลักจิตวิทยาได้ จึงได้มีการสร้างเครื่องมือ Fibonacci Ratio ขึ้นมาให้ใช้ในการวิเคราะห์กราฟนั่นเอง
โดยในการหาช่วงย่อตัวของแนวโน้มขาขึ้น : จะลากจากจุด Swing Low ไปสู่จุด Swing High
ส่วนการหาช่วงฟื้นตัวในแนวโน้มขาลง : จะลากจากจุด Swing High ไปสู่จุด Swing Low
วิธีหา จุดซื้อ จุดขายหุ้น หรือ จุดเปิดออเดอร์ Buy หรือ Sell โดยการใช้ แนวรับแนวต้าน
เทคนิค High และ Low
เทคนิคแนวรับแนวต้าน High และ Low เป็นเทคนิคหาจุดที่ราคาสวิงขึ้นไปสูงสุดและต่ำสุดเพื่อหาจังหวะเปิดออเดอร์ Buy/Sell เพื่อทำกำไร
· High หรือ สวิง High หมายถึง การเคลื่อนไหวของราคาที่อยู่จุดสูงสุดของราคาภายในกรอบแนว รับแนวต้าน ก่อนที่ราคาจะตกลงไป ต่ำกว่าเดิม จังหวะนี้นักลงทุนมักจะเปิดออเดอร์ Sell ที่ High เดิม เพราะบ่อยครั้งที่ราคากระทบเส้นแนวต้าน แล้วจะลงจากจุดสูงสุดอย่างรวดเร็ว
หากราคากระทบแนวต้านและไม่เด้งกลับ ค่อยๆ สร้างฐานสูงขึ้น หรือไปกระทบเส้นแนวต้านบ่อยๆ มีโอกาสที่จะทะลุแนวต้าน High เดิม
· Low หรือ สวิง Low หมายถึง การเคลื่อนไหวของราคาที่อยู่จุดต่ำสุดของราคาภายในกรอบแนวรับ แนวต้าน ก่อนที่ราคาจะเริ่มสูงขึ้นไปกว่าเดิม จังหวะนี้นักลงทุนมักจะเปิดออเดอร์ Buy ที่ Low เดิม เพราะบ่อยครั้งที่ราคากระทบเส้นแนวรับ แล้วจะขึ้นไปจากจุดต่ำสุดอย่างรวดเร็ว
หากราคากระทบแนวรับและไม่เด้งกลับ ค่อยๆ สร้างฐานต่ำลง หรือไปกระทบเส้นแนวรับบ่อยๆ หรือราคาวิ่งอยู่ที่แถวเส้นแนวรับและไม่เด้งกลับ มีโอกาสที่ราคาจะวิ่งทะลุแนวรับ
รับกลายเป็นต้าน ต้านกลายเป็นรับ
· เมื่อแนวรับถูกทำลาย จะสามารถนำมาใช้เป็น แนวต้าน ในอนาคตได้
· เมื่อแนวต้านถูกทำลาย สามารถนำมาใช้เป็น แนวรับ ในอนาคตได้
เทคนิคการดูกรอบการแกว่งตัวของราคา
· กรอบการแกว่งตัวของราคา คือช่วงราคาหุ้นที่แกว่งตัวอยู่ในกรอบคู่ขนานใช้บ่งชี้แนวรับและแนวต้านที่ชัดเจน ซึ่งเมื่อเกิดราคาทะลุกรอบบนหรือแนวต้านก็หมายความว่า แรงซื้อชนะ ส่วนถ้าราคาทะลุกรอบล่างแนวรับก็หมายความว่า แรงขายชนะ
ประโยชน์ของ การดูแนวรับแนวต้าน
· ช่วยให้นักลงทุนวิเคราะห์หาจุดซื้อจุดขายเพื่อทำกำไร
· ใช้เป็นโซนหรือเป็นกรอบในการชี้วัดการขึ้นลงของราคาหุ้น
· ช่วยให้มองเห็นช่วงของราคา หรือกรอบราคา
· ใช้วิเคราะห์คู่กับอิดิเคเตอร์หรือตัวชี้วัดอื่นๆ ในการหาจังหวะลงทุนหรือขายหุ้นเพื่อทำกำไร
