6 รูปแบบกลยุทธ์ที่ใช้ในการเทรด Forex
การเทรด Forex มีหลายรูปแบบของกลยุทธ์ที่นักลงทุนสามารถใช้ในการเทรดตลาดนี้ ความเหมาะสมของกลยุทธ์จะขึ้นอยู่กับสไตล์การลงทุนของแต่ละบุคคล นี่คือ 6 รูปแบบกลยุทธ์ที่ใช้ในการเทรด Forex พร้อมกับแนวโน้มแบบหนึ่งในแต่ละรูปแบบ:
1.Trend Following (การเทรดตามแนวโน้ม): นักลงทุนรูปแบบนี้จะพยายามหาสกุลเงินที่มีแนวโน้มเป็นช่วงยาวและจะซื้อหรือขายตามทิศทางของแนวโน้มนั้น นายตามแนวโน้มอาจเป็นนักเทรดระยะยาวหรือระยะสั้นขึ้นอยู่กับระยะเวลาของแนวโน้ม.
แนวโน้ม: ตามแนวโน้มที่มีความสำคัญเช่น uptrend หรือ downtrend.
ความเสี่ยง: ความเสี่ยงสูง เนื่องจากไม่มีการตั้งราคาเป้าหมายที่ชัดเจน และแนวโน้มอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา.
อัตราการทำกำไร: สามารถทำกำไรได้สูงถ้าสามารถจับตาแนวโน้มที่ถูกต้อง แต่อาจเสี่ยงต่อความสูญเสียในกรณีที่แนวโน้มเปลี่ยนทิศทาง.
2.Swing Trading (การเทรดสวิง): นักเทรดรูปแบบนี้จะพยายามทำกำไรจากการค้าระหว่างขนาดกลางหรือกลางสูง โดยเน้นการเทรดในช่วงราคาที่มีความเปลี่ยนแปลง.
แนวโน้ม: มุ่งหน้าหาข้อกำหนดราคาที่จะซื้อหรือขาย.
ความเสี่ยง: ความเสี่ยงปานกลาง โดยอาจมีการลงทุนในระยะเวลานานขึ้นเมื่อค้าระหว่างขนาดกลาง.
อัตราการทำกำไร: ทำกำไรได้สูงกว่าการเทรดตามแนวโน้ม แต่ยังต้องระมัดระวังเพื่อป้องกันความสูญเสีย.
3.Scalping (การเทรดสกัลป์): Scalper จะเน้นการทำกำไรจากความเคลื่อนไหวเล็ก ๆ ในระยะเวลาสั้น ๆ โดยค้าระหว่างวินาทีหรือนาที.
แนวโน้ม: มุ่งหน้าหาการเคลื่อนไหวขนาดเล็กในตลาด.
ความเสี่ยง: ความเสี่ยงสูง เนื่องจากความเคลื่อนไหวขนาดเล็กอาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และค่าคอมมิชชันสูง.
อัตราการทำกำไร: มีโอกาสทำกำไรเร็ว แต่ต้องระมัดระวังความเสี่ยงที่สูงมาก.
4.Range Trading (การเทรดในช่วงราคา): นักเทรดรูปแบบนี้จะเข้า-ออกตลาดขณะที่ราคาอยู่ในช่วงราคานั้น ๆ โดยสร้างกำไรจากการแน่นอนของราคาในช่วงเวลานั้น.
แนวโน้ม: การค้าในช่วงราคา.
ความเสี่ยง: ความเสี่ยงปานกลาง เนื่องจากค้าในช่วงราคาที่มีการกำหนดเป้าหมาย.
อัตราการทำกำไร: ทำกำไรได้สูงถ้าราคาเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงราคาที่กำหนดไว้ แต่ก็อาจมีความเสี่ยงในกรณีที่ราคาขึ้นลงนอกช่วงราคา.
5.News Trading (การเทรดตามข่าว): นักลงทุนรูปแบบนี้จะค้าขณะที่ข่าวสารหรือเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น ควรระมัดระวังเนื่องจากการเทรดตามข่าวสามารถทำให้ราคาขายขาลงแบบไม่คาดคิด.
แนวโน้ม: ขึ้นอยู่กับข่าวสารหรือเหตุการณ์เฉพาะ.
ความเสี่ยง: ความเสี่ยงสูงมาก เนื่องจากการเทรดตามข่าวสามารถทำให้ราคาขายขาลงอย่างรวดเร็ว.
อัตราการทำกำไร: รับได้สูงเมื่อคาดการณ์ถูกต้องและราคาเคลื่อนไหวตามทิศทางที่คาดการณ์ แต่การทำกำไรก็อาจเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและตามการแจ้งข่าวเหตุ.
6.Algorithmic Trading (การเทรดโดยใช้ระบบอัลกอริทึม): นักลงทุนรูปแบบนี้ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อวางคำสั่งซื้อขายในระยะเวลาสั้น ๆ โดยอัลกอริทึมที่ตั้งค่าไว้.
แนวโน้ม: ขึ้นอยู่กับอัลกอริทึมที่ใช้.
ความเสี่ยง: ความเสี่ยงขึ้นอยู่กับการแล้วแต่อัลกอริทึมและการตั้งค่า การบ่งชี้อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาด.
อัตราการทำกำไร: อัตราการทำกำไรขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของระบบอัลกอริทึม แต่มักมีโอกาสทำกำไรได้รวดเร็ว.
ดังนั้น คุณเป็นเทรดเดอร์แบบไหนขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ที่คุณเลือกใช้ ควรจะเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะกับสไตล์การลงทุนและประสบการณ์ของคุณ ทั้งนี้ ควรระมัดระวังและบริหารความเสี่ยงอย่างมีขอบเขตเมื่อทำการเทรด Forex โดยตลอดเวลาเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน.
ระดับความเสี่ยงและอัตราการทำกำไรอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดของนักเทรดแต่ละคน และการจัดการความเสี่ยงของแต่ละบุคคล ควรระมัดระวังและทบทวนกลยุทธ์เทรดเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน และรู้สึกสมใจกับกลยุทธ์ที่เลือกใช้ นอกจากนี้ ควรศึกษาและฝึกฝนกับกลยุทธ์ที่เลือกใช้ให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในตลาด Forex ให้สูงขึ้นและลดความเสี่ยงที่สามารถเกิดขึ้นได้ในการเทรดเงินตราต่างประเทศ.
Cashback Forex รับเงินคืนอัตโนมัติทุกวันสูงสุด 50% จ่ายเงินคืนเข้าบัญชี Exness โดยตรง