Bitcoin ได้รับความนิยมนั้นหมายถึง “ดีกว่าทองคำ” หรือฟองสบู่ที่ใหญ่กว่า?

Bitcoin ได้รับความนิยมนั้นหมายถึง “ดีกว่าทองคำ” หรือฟองสบู่ที่ใหญ่กว่า?

การลงทุน Bitcoin ได้รับความเดือดร้อน ราคาเริ่มต้นซึ่งกำหนดไว้ในปี 2010 นั้นน้อยกว่า 1 เซ็นต์ นับตั้งแต่มีการแลกเปลี่ยนมูลค่าหลายหมื่นดอลลาร์เพิ่มขึ้น 305% ในปี 2020 แต่หลังจากสูญเสียมูลค่าเกือบสามในสี่ในปี 2018 เท่านั้นเมื่อถูกมองว่าเป็นดินแดนของพวกหนอนหนังสือ นักเสรีนิยมและพ่อค้ายา

Bitcoin ในปัจจุบันสามารถดึงดูดผู้คนนับล้านได้ ดอลลาร์จากกองทุนป้องกันความเสี่ยงและบริษัทต่างๆ ในขณะที่ PayPal ให้ผู้บริโภคใช้เงินดังกล่าวเพื่อซื้อสินค้าและบริการ ราคาที่พุ่งสูงขึ้นอาจสะท้อนการยอมรับจากชุมชนการเงินว่าสิ่งที่เรียกว่า cryptocurrencies – รูปแบบเงินดิจิทัล – มีประโยชน์ และ Bitcoin โดยเฉพาะสามารถเติมเต็มบทบาทของทองคำในการป้องกันภาวะเงินเฟ้อได้ดีกว่าทองคำ หรืออาจเป็นอีกฟองสบู่

1. Bitcoin คืออะไรกันแน่?
   เป็นรูปแบบของเงินที่น่าทึ่ง ไม่ใช่สกุลเงินที่คุณสามารถถือไว้ในมือได้ มันไม่ได้ออกหรือสนับสนุนโดยรัฐบาลแห่งชาติ แก่นแท้ของพวกเขา Bitcoin และผู้ลอกเลียนแบบคือชุดของโปรโตคอลซอฟต์แวร์สำหรับการสร้างโทเค็นดิจิทัลและสำหรับการติดตามธุรกรรมในลักษณะที่ทำให้ยากต่อการปลอมแปลงหรือนำโทเค็นกลับมาใช้ใหม่ Bitcoin มีค่าเฉพาะในขอบเขตที่ผู้ใช้ยอมรับว่ามีค่าเท่านั้น

2. ระบบ Bitcoin มาจากไหน?
   ซอฟต์แวร์ดั้งเดิมถูกวางลงในสมุดปกขาวในปี 2008 โดยบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ใช้นามแฝง Satoshi Nakamoto ซึ่งยังคงไม่ทราบตัวตน แม้ว่าจะมีความพยายามหลายครั้งในการกำหนดหรืออ้างสิทธิ์ในเครดิต

เกมแฟนตาซีออนไลน์ใช้สกุลเงินเสมือนมานานแล้ว แนวคิดหลักที่อยู่เบื้องหลัง Bitcoin คือบล็อคเชน ซึ่งเป็นบัญชีแยกประเภทออนไลน์ที่ไม่เปิดเผยตัวตนซึ่งส่วนใหญ่เปิดเผยต่อสาธารณะซึ่งบันทึกธุรกรรม Bitcoin

3. มันทำงานอย่างไร?
   ลองนึกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นหากคุณทำการโอนเงินออนไลน์โดยใช้ธนาคาร เป็นการยืนยันว่าคุณมีเงิน ลบจำนวนนั้นออกจากจุดหนึ่งในฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่ดูแลบัญชีและยอดคงเหลือ และเครดิตในที่อื่น คุณสามารถดูผลลัพธ์ได้หากคุณเข้าสู่ระบบบัญชีแต่ธุรกรรมอยู่ภายใต้การควบคุมของธนาคาร คุณไว้วางใจให้ธนาคารนำเงินออกในจำนวนที่เหมาะสม และธนาคารก็กำลังตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณจะไม่สามารถใช้เงินนั้นได้อีก บล็อกเชนเป็นฐานข้อมูลที่ดำเนินการฟังก์ชันการติดตามเหล่านี้แต่ไม่มีธนาคารหรือหน่วยงานกลางอื่นๆ
4. ใครทำหน้าที่ธนาคารสำหรับ Bitcoin?
   มันทำโดยฉันทามติบนเครือข่ายกระจายอำนาจ ธุรกรรม Bitcoin สามารถทำได้ผ่านเว็บไซต์ที่เสนอ “กระเป๋าเงิน” อิเล็กทรอนิกส์ที่อัปโหลดข้อมูลไปยังเครือข่าย ธุรกรรมใหม่จะถูกรวมเข้าด้วยกันเป็นชุดและออกอากาศไปยังเครือข่ายเพื่อตรวจสอบโดยผู้ขุด Bitcoin

      5.ใครสามารถขุดบิตคอยได้บ้าง
ใครก็ได้ ตราบใดที่คุณมีคอมพิวเตอร์ที่เร็ว พลังงานเยอะ และความปรารถนาที่จะไขปริศนา ข้อมูลธุรกรรมในแต่ละชุดงานจะถูกเข้ารหัสโดยสูตรที่สามารถปลดล็อคได้ผ่านการเดาแบบลองผิดลองถูกในปริมาณมากเท่านั้น คนงานเหมืองใช้พลังการประมวลผลขนาดใหญ่เพื่อแข่งขันกันเพื่อเป็นคนแรกที่แก้ปัญหา หากคำตอบของผู้ขุดได้รับการตรวจสอบโดยผู้อื่น ข้อมูลจะถูกเพิ่มไปยังกลุ่มข้อมูลที่เชื่อมโยง และนักขุดจะได้รับรางวัลเป็น Bitcoin

6. ระบบ ป้องกันการโกงอย่างไร?
   เนื่องจากทุกบล็อกมีข้อมูลที่เชื่อมโยงไปยังบล็อกก่อนหน้า ความพยายามในการใช้จ่าย Bitcoin เดียวกันสองครั้งอาจหมายถึงการแก้ไขลิงก์จำนวนมากในห่วงโซ่ นอกจากนี้ ในขณะที่นักขุดแข่งขันกัน พวกเขาตรวจสอบการทำงานของกันและกันในแต่ละขั้นตอน

7. ใครซื้อและใช้ Bitcoin?

ผู้จัดการกองทุนที่รู้จักกันดีเช่นไมค์โนโวกราซและอลันโฮเวิร์ดได้ลงทุนหลายร้อยล้านดอลลาร์  Bitcoin และ cryptocurrencies อื่น ๆ การสำรวจของ  Fidelity Investments ดำเนินการในปี 2020 พบว่า 36% ของผู้ตอบแบบสอบถามถือ crypto ในพอร์ตการลงทุน มากกว่า 6 ใน 10 แสดงความสนใจใน Bitcoin และ cryptocurrencies อื่น ๆ เพิ่มขึ้นจากน้อยกว่าครึ่งในปี 2019 และ Bitcoin เพิ่มขึ้นสี่เท่าในปี 2020 – นักลงทุนรายย่อยต่างก็เข้ามาร่วมลงทุนในตลาด cryptocurrencies

8. ทำไมราคาของ Bitcoin ถึงได้พุ่งขึ้นมาก?
   แฟน Bitcoin ที่รู้จักกันมานานชี้ให้เห็นถึงเหตุการณ์ที่เรียกว่า Halvening ที่เกิดขึ้นในปี 2020 โดยลดจำนวน Bitcoins ใหม่ที่ออกให้กับผู้ขุดเพื่อตรวจสอบธุรกรรมเกิดขึ้นทุกสามถึงสี่ปี เนื่องจากการจำกัดการเติบโตของ Bitcoin มักตามมาด้วยราคาที่ปรับลงอย่างหนักแต่ในขณะเดียวกัน การเข้ามาของนักลงทุนและสถาบันลงทุนได้ผลักดันราคาให้สูงขึ้นด้วย

9. อะไรคือสิ่งที่ดึงดูดใจนักลงทุน?
   ผลตอบแทนที่เป็นศูนย์และติดลบในสินทรัพย์แบบดั้งเดิมกำลังผลักดันกองทุนป้องกันความเสี่ยง และแม้แต่บริษัทอย่าง MicroStrategy ก็ต้องเทเงินสดเข้าใน Bitcoin ซึ่งในขณะที่ความผันผวนสูงก็ได้รับการชื่นชมอย่างมากในระยะยาว ในขณะที่ผู้คนบางส่วนบอก ว่ามูลค่าของ Bitcoin จะลดลงเหลือศูนย์ หลายคนต้องเปลี่ยนความคิดของพวกเขาเพียงเพราะดูเหมือนว่าจะมีคนมากพอที่จะเชื่อใน Bitcoin

10. ทำไม Bitcoin ถึงเทียบกับทองคำ?
    ในฐานะที่เป็นทรัพยากรที่หายาก ทองคำมักจะป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ รัฐบาลสามารถพิมพ์เงินและทำให้สกุลเงินของรัฐบาลนั้นมีค่าลดลง แต่ไม่สามารถผลิตทองคำได้
     
    Bitcoin มีข้อเท็จจริงที่ว่ามันไม่ได้ถูกควบคุมโดยรัฐบาลหรือนโยบายการเงินของพวกเขา และอุปทานของ Bitcoin นั้นจำกัดยิ่งกว่าทองคำอย่างเคร่งครัด การ Halvenings ช่วยชะลอการขุดเหรียญใหม่ และการผลิตจะหยุดทั้งหมด 21 ล้านเหรียญ (ยอดรวมมากกว่า 18.5 ล้านคน ณ สิ้นปี 2020) ด้วยการใช้จ่ายจำนวนมากของรัฐบาลและธนาคารกลางเพื่อตอบสนองต่อการเกิดความกลัวเรื่องเงินเฟ้อหลังจากเศรษฐกิจฟื้นตัว จึงเพิ่มความสนใจมากขึ้นให้กับ Bitcoin เป็น “ทองคำดิจิทัล” ” แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงนิ่งอยู่

     11.จะเกิดอะไรขึ้นกับสถาบันการลงทุน?
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรู้สึกสบายใจมากขึ้นในการเข้าสู่ Bitcoin ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากการป้องกันที่ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้เสนอให้ธนาคารและตัวกลางอื่น ๆ เก็บรักษาบันทึกและส่งรายงานเพื่อตรวจสอบตัวตนของลูกค้าสำหรับธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลบางรายการ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Bitcoin ยังได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่สำคัญยิ่งขึ้นอีกด้วย มีบริการดูแลและซื้อขาย – ด้วยใบอนุญาตและหนังสือรับรองที่เหมาะสม – ที่ให้บริการเฉพาะสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่ได้รับการควบคุม

12. นี่เป็นอีกฟองฟองสบู่ หรือ Bitcoin เป็นทองคำดิจิทัลจริงๆ ?
    ยังไม่ชัดเจน เมื่อสถาบันการลงทุนเข้ามาพวกเขาสามารถเข้ามาลงทุนและเมื่อถอนทุนออก ส่วนใหญ่ออก จึงทำให้ราคาลงอย่างมาก Bitcoin เป็นยัง ตลาดที่มีการซื้อขายกันอย่างเบาบาง ซึ่งมีสิ่งที่เรียกว่า “วาฬ” ควบคุมเหรียญปริมาณมาก มีอิทธิพลอย่างมาก นักวิจัย จาก Flipside Crypto กล่าวว่าประมาณ 2% ของบัญชีที่ไม่ระบุตัวตนซึ่งสามารถติดตามได้บนบัญชีแยกประเภทดิจิทัลของเหรียญซึ่งควบคุม 95% ของอุปทานที่มีอยู่
13. cryptocurrency อื่นสามารถแทนที่ได้หรือไม่?
    เนื่องจากจำนวน cryptocurrencies และ token ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง – ตอนนี้พวกเขาไปถึงหลักพันแล้ว – Bitcoin ยังคงเป็นที่รู้จักกันดีที่สุด ผ่านการทดสอบตามเวลาและมีค่า นอกจากนี้ยังเป็นเหรียญเดียวที่ถือว่าเป็นตัวเก็บมูลค่า อื่นๆ เช่น Ethereum ใช้สำหรับสิ่งอื่น เช่น การออกโทเค็นเพื่อใช้ในแอปพลิเคชันการเงินแบบกระจายอำนาจ

14. ฉันจะซื้อ Bitcoin หรือลงทุนใน Bitcoin ได้อย่างไร?
    มีหลายวิธี ทั้งหมดมีความเสี่ยงต่างกัน ผู้คนสามารถซื้อเหรียญได้โดยตรงจากการแลกเปลี่ยนเช่น Coinbase นักลงทุนที่ได้รับการรับรองยังสามารถ ลงทุนในกองทุน Bitcoin Investment Trust ซึ่งติดตามราคาของ Bitcoin ตอนนี้นักลงทุนสามารถซื้อหรือขาย Bitcoin Futures และในไม่ช้าก็อาจจะสามารถซื้อกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน Bitcoin ได้

Halving คือ การลดผลตอบแทนจากการขุดลงครึ่งหนึ่ง อย่างเช่น Bitcoin Halving เป็นการลดจำนวนบิทคอยน์จากการขุดที่จะออกมาสู่ตลาดโดยปริมาณจะลดลงครึ่งหนึ่งในทุก ๆ 4 ปี

Share

อะไรคือ Halving?

ในอดีตนั้นบิทคอยน์จะได้มาจากการขุดที่มาจากการตรวจสอบธุรกรรมในระบบบล็อกเชน ซึ่งในการขุด 1 บล็อก ผู้ขุดหรือผู้ยืนยันธุรรกรรมจะได้รับ 50 BTC เป็นค่าตอบเเทน แต่เนื่องด้วยจำนวนบิทคอยน์มีจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญ หากทำการขุดไปเรื่อย ๆ ตัวบิทคอยน์จะต้องหมดไปในเวลาไม่นาน จึงเป็นเหตุให้ Satoshi Nakamoto (ผู้สร้าง) ได้คิดการทำ Halving ขึ้นมา

Halving จึงเป็นการลดผลตอบเเทนของการขุดลงครึ่งหนึ่ง โดยเริ่มเเรกผู้ขุดจะได้รับ 50 BTC เป็นค่าตอบเเทน ต่อหนึ่งบล็อก เมื่อเกิดการ Halving ขึ้น ผลตอบแทนจะลดลงเป็นครึ่งหนึ่ง เหลือเพียง 25 BTC  ต่อการขุด 1 บล็อก การ Halving รอบที่ 3 ในปี 2020 ทำให้การขุดหนึ่งครั้งผลตอบแทนลดลงไปเหลือ 6.25 BTC และทุกครั้งหลังจาก Halving มูลค่าของ BTC ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ที่มา: bloomberg

อ่านเพิ่มเติม: รีวิวโบรกเกอร์