ตลาดจับตาภาคที่อยู่อาศัย อาจเป็นอุปสรรคขวางเฟดในการบรรลุเป้าเงินเฟ้อ
-
เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เคยตั้งความหวังตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวของเฟดจะส่งผลให้ราคาบ้านชะลอการปรับขึ้น และปัจจัยดังกล่าวจะมีส่วนช่วยให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง โดยตัวเลขเศรษฐกิจส่วนใหญ่ที่ออกมาในช่วงก่อนหน้านี้ก็ปรับตัวไปตามแนวทางที่เฟดคาดหวังไว้ อย่างไรก็ดี สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปในเดือนก.ย. ในขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดมองว่าอัตราเงินเฟ้อในภาคที่อยู่อาศัยอาจจะยังคงอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังรายงานในวันที่ 12 ต.ค.อีกด้วยว่า ค่าที่พักพุ่งขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบรายเดือน และครองสัดส่วนสูงกว่าครึ่งหนึ่งของการปรับขึ้นของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปในเดือนก.ย. หลังจากค่าที่พักปรับขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. ทั้งนี้ ถึงแม้ค่าที่พักพุ่งขึ้นในเดือนก.ย. นักวิเคราะห์ก็คาดว่าอัตราเงินเฟ้อในภาคที่อยู่อาศัยจะไม่พุ่งขึ้นต่อไป ในขณะที่ตัวเลขค่าเช่าแบบเรียลไทม์ยังคงบ่งชี้ว่า ดัชนีราคาบ้านอย่างเป็นทางการจะชะลอตัวลงในอนาคต
-
ค่าที่พักจำเป็นจะต้องชะลอตัวลงในอนาคต ถึงจะส่งผลให้เจ้าหน้าที่เฟดมีความมั่นใจได้ว่า อัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงสู่ระดับเป้าหมายที่เฟดตั้งไว้ที่ 2% โดยดัชนี CPI พื้นฐานแบบเทียบรายปีของสหรัฐปรับขึ้น 4.1% ในเดือนก.ย. ซึ่งถือเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2021 หรือต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี หลังจากปรับขึ้น 4.3% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบรายปี อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อในภาคบริการยกเว้นพลังงานปรับขึ้นสู่ 0.6% ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้รับแรงหนุนจากค่าเช่าที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ นายโอลู โซโนลา หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจภูมิภาคของสหรัฐในบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์กล่าวว่า “แนวโน้มเงินเฟ้อโดยรวมยังคงอยู่ในภาวะที่น่าพึงพอใจ แต่การต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อยังคงดำเนินต่อไป โดยอัตราเงินเฟ้อในภาคที่อยู่อาศัยที่ปรับสูงขึ้นในเดือนล่าสุดถือเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมาก และอัตราเงินเฟ้อในภาคที่อยู่อาศัยจำเป็นจะต้องชะลอตัวลงอย่างรุนแรงในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ถึงจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อสหรัฐเข้าใกล้ระดับ 2% ได้”
-
เจ้าหน้าที่เฟดเริ่มระบุถึงปัจจัยเสี่ยงบางประการที่อาจจะเป็นอุปสรรคขัดขวางเฟดจากการทำให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงสู่ระดับเป้าหมาย โดยปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้รวมถึงการที่ตลาดที่อยู่อาศัยอยู่ในภาวะแข็งแกร่งเกินคาด ในขณะที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่งผลกระทบในระดับที่น้อยเกินคาดต่อราคาบ้าน, ยอดการอนุญาตก่อสร้างบ้าน และการจ้างงานภาคก่อสร้าง ทั้งนี้ เป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์ว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐจะปรับตัวอย่างไรในอนาคต ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อในภาคที่อยู่อาศัยได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายประการ ซึ่งรวมถึงความแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาคของสหรัฐ, การก่อสร้างที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการ, ค่าเช่า, ราคาบ้านเดี่ยว และอัตราดอกเบี้ย
-
นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดได้กล่าวหลังการประชุมในวันที่ 19-20 ก.ย.ว่า “กิจกรรมในภาคที่อยู่อาศัยปรับตัวดีขึ้นมาบ้างแล้ว” และเขามีความเชื่อมั่นว่าสัญญาการเช่าบ้านและอพาร์ทเมนท์ที่เพิ่งลงนามจะแสดงให้เห็นถึงการปรับขึ้นค่าเช่าในอัตราที่ช้ากว่าเมื่อ 1 ปีก่อน และสิ่งนี้จะส่งผลให้ราคาบ้านโดยรวมชะลอตัวลง ทางด้านรายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 19-20 ก.ย.ระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดหารือกันเรื่องความเสี่ยงจากการพุ่งขึ้นของราคาบ้าน และระบุเสริมว่า “ผู้เข้าร่วมการประชุมตั้งข้อสังเกตว่า อุปสงค์ในภาคที่อยู่อาศัยรักษาระดับความแข็งแกร่งไว้ได้ ถึงแม้อัตราดอกเบี้ยปรับสูงขึ้น โดยยอดการก่อสร้างบ้านใหม่อยู่ในระดับแข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุนบางส่วนจากจำนวนบ้านในตลาดที่มีอยู่อย่างจำกัด”
-
ราคาบ้านปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนบางส่วนจากอุปทานบ้านในตลาดที่มีอยู่อย่างจำกัด ในขณะที่เจ้าของบ้านลังเลที่จะซื้อบ้านใหม่ เนื่องจากพวกเขาต้องจ่ายอัตราดอกเบี้ยจำนองที่สูงมากในการเข้าซื้อบ้านใหม่ ทั้งนี้ แคธี บอสท์ยานซิค หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทเนชันไวด์กล่าวว่า การพุ่งขึ้นของค่าที่อยู่อาศัยส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในภาคบริการโดยรวมยังคงอยู่ในระดับสูง และปัจจัยนี้จะส่งผลให้เฟดเปิดโอกาสสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ถึงแม้เฟดอาจจะตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.
ขอบคุณที่มา Tradingview
อ่าน: รีวิวโบรกเกอร์
Cashback Forex รับเงินคืนอัตโนมัติทุกวันสูงสุด 50% จ่ายเงินคืนเข้าบัญชี Exness โดยตรง
