CPI คืออะไรส่งผลอย่างไรต่อตลาด Forex
CPI หมายถึง Consumer Price Index หรือ ดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งเป็นตัวชี้วัดการเปลี่ยนแปลงในราคาของสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญในการวิเคราะห์สภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ดัชนี CPI มักถูกใช้ในการประเมินความเสี่ยงและการตัดสินใจในการลงทุนและการคาดการณ์เกี่ยวกับความเสถียรของตลาดการเงินและอุตสาหกรรมทางการเงินโดยรวม
การเปลี่ยนแปลงใน CPI สามารถมีผลต่อตลาด Forex ได้โดยตรง เนื่องจาก CPI สามารถส่งผลต่อค่าเงินของประเทศนั้น ๆ ผ่านกระบวนการต่อไปนี้:
- การส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยน: การเปลี่ยนแปลงใน CPI สามารถส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินของประเทศนั้น ๆ หาก CPI เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดหวัง (อ่านว่า CPI สูงกว่าคาดหวัง) อาจทำให้อัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินของประเทศนั้นขึ้นตามได้ และในทางกลับกัน หาก CPI ต่ำกว่าที่คาดหวัง (CPI ต่ำกว่าคาดหวัง) อาจทำให้อัตราแลกเปลี่ยนลดลงได้.
- การตัดสินใจการเงิน: การส่งผลต่อ CPI อาจทำให้ธนาคารกลางและหน่วยงานการเงินของประเทศตัดสินใจเรื่องการเงิน เช่น อัตราดอกเบี้ย การนำเข้าเงินฝาก หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน ซึ่งสามารถมีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงิน.
- ความเสถียรของตลาด: CPI สูงกว่าที่คาดหวังอาจทำให้ตลาดการเงินมีความไม่เสถียรมากขึ้น เนื่องจากนักลงทุนอาจมีความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยหรือนโยบายการเงินเพิ่มเติม ซึ่งอาจส่งผลต่อค่าเงิน.
- ความนิยมในการลงทุน: ค่า CPI ที่ดีกว่าที่คาดหวังอาจเสริมสร้างความนิยมในการลงทุนในสกุลเงินของประเทศนั้น ๆ และส่งผลในการขยายสกุลเงินนั้น.
ดังนั้น, การเข้าใจ CPI และการติดตามการเปลี่ยนแปลงของมันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนที่มีส่วนร่วมในตลาด Forex เนื่องจากมันสามารถช่วยในการทำนายและวิเคราะห์เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของค่าเงินและเตรียมการสำหรับสถานการณ์ทางการเงินที่เปลี่ยนแปลงได้.
ดัชนีราคาผู้บริโภค ถูกใช้บ่อยในการการระบุช่วงเวลาของภาวะเงินเฟ้อ หรือภาวะเงินฝืด ช่วยให้เราสามารถมองเห็นได้ว่าค่าเงินที่แท้จริงของประชาชนนั้นเป็นอย่างไร รวมถึงใช้ในการคาดเดาทิศทางราคาสินค้าในตลาด ใช้เป็นเกณฑ์ในการปรับขึ้น-ลง อีกทั้งยังใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในนโยบายการเงินของประเทศ
ดังนั้น ข้อมูลเงินเฟ้อจึงเป็นสิ่งสำคัญในตลาดสกุลเงิน เพราะอัตราเงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางซึ่งเกี่ยวกับนโยบายการเงิน ถ้าหาก Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ การกู้ยืมเงินไม่ว่าจะโดยบุคคลที่จะซื้อสินค้าและบริการหรือโดยธุรกิจเพื่อการขยายกิจการมักจะทำสัญญา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่กว้างขึ้นของประเทศนั่นเอง
ดังนั้น เมื่อ CPI เพิ่มขึ้น ราคาเฉลี่ยของสินค้าและบริการจะเพิ่มขึ้น และในทางกลับกัน เมื่อ CPI ลดลง การใช้จ่ายเฉลี่ยของผู้คนสำหรับสินค้าและบริการจะลดลง CPI เลยเป็นตัววัดว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงเงินเฟ้อหรือเงินฝืด รัฐบาลและผู้จัดการด้านเศรษฐกิจมักจะติดตามข้อมูล CPI อย่างใกล้ชิดเพื่อวางแผนและปรับนโยบายเพื่อให้เศรษฐกิจดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้อง
หากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคออกมาสูง ค่าดัชนีราคาผู้บริโภคที่สูงขึ้น สะท้อนว่าประเทศกำลังเกิดภาวะเงินเฟ้อ
• ถือเป็นตลาดขาขึ้น หรือตลาดกระทิงสำหรับสกุลเงิน USD
• นั่นหมายความว่า ราคาทองคำจะมีการปรับตัวต่ำลง
หากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคออกมาต่ำ ค่าดัชนีราคาผู้บริโภคที่ต่ำลง สะท้อนว่าประเทศกำลังเกิดภาวะอุปสงค์ของผู้บริโภคลดลง และภาวะเงินฝืด
• ถือเป็นตลาดขาลง หรือตลาดหมีสำหรับสกุลเงิน USD
• นั่นหมายความว่า ราคาทองคำจะมีการปรับตัวสูงขึ้น
อ่าน: รีวิวโบรกเกอร์
Cashback Forex รับเงินคืนอัตโนมัติทุกวันสูงสุด 50% จ่ายเงินคืนเข้าบัญชี Exness โดยตรง