29.5 C
Thailand
วันศุกร์, เมษายน 26, 2024
- Advertisement -spot_img

ธนาคารแห่งประเทศไทย ทดสอบ สกุลเงินดิจิทัลค้าปลีก ปลายปีนี้ CBDC คืออะไร ?

ธนาคารแห่งประเทศไทย ทดสอบ สกุลเงินดิจิทัลค้าปลีก ปลายปีนี้ CBDC คืออะไร ?

ธนาคารแห่งประเทศไทย ทดสอบ สกุลเงินดิจิทัลค้าปลีก ปลายปีนี้ CBDC คืออะไร ? ธนาคารกลางของประเทศไทยกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่าคาดว่าจะทดสอบสกุลเงินดิจิทัล

สำหรับการค้าปลีกตั้งแต่ปลายปีนี้ถึงกลางปี ​​2566 เพื่อเป็นทางเลือกในการชำระเงิน

ในระหว่างการทดสอบสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางเพื่อการค้าปลีก (CBDC) จะใช้ในการทำธุรกรรมเหมือนเงินสด เช่น การชำระค่าสินค้าและบริการ ภายในพื้นที่จำกัด และในหมู่ผู้ใช้รายย่อยประมาณ 10,000 ราย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวใน คำแถลง

ธปท. จะประเมินประโยชน์และความเสี่ยงจากโครงการนำร่องเพื่อกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องและปรับปรุงการออกแบบ

ปัจจุบัน ธปท. ไม่มีแผนที่จะออก CBDC สำหรับร้านค้าปลีกอย่างเป็นทางการ

CBDC สำหรับร้านค้าปลีกเป็นรูปแบบเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางซึ่งเทียบเท่ากับธนบัตรจริง สามารถใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงินทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์

อย่างไรก็ตาม ธปท. กล่าวว่าไม่สนับสนุนการใช้สินทรัพย์ดิจิทัล เช่น bitcoin และ ether เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการเนื่องจากความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง

 

CBDC คืออะไร?
Central Bank Digital Currency คือเงินสกุลดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางของประเทศนั้น ๆ พูดง่าย ๆ ในกรณีของไทย ก็เหมือนเงินบาทหรือธนบัตรที่ออกโดยแบงก์ชาติ เพียงแต่อยู่ในรูปแบบ “ดิจิทัล”

ทำไมธนาคารกลางสนใจออก CBDC สำหรับรายย่อยด้วย?

สาเหตุสำคัญคือ การเข้าถึงบริการทางการเงินที่สูงขึ้น แม้ว่าประชาชนคนนั้นจะไม่มีบัญชีกับธนาคารพาณิชย์ (ธพ.) ก็ตาม การเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนของระบบการเงินทั้งระบบของประเทศ

ส่วนปัจจัยเร่งสำคัญคือ การพัฒนาเงินสกุลดิจิทัลที่ออกโดยภาคเอกชน ซึ่งอาจลดทอนประสิทธิภาพในการดำเนินนโยบายการเงินและเสถียรภาพระบบการเงินของประเทศได้

CBDC ต่างจากเงินสกุลดิจิทัลที่ออกโดยภาคเอกชน เช่น คริปโทเคอร์เรนซี (cryptocurrency) และสเตเบิลคอยน์ (stable coin) อย่างไร?
ความแตกต่างสำคัญคือ “ผู้ออกใช้” และ “คุณสมบัติความเป็นเงิน” โดย CBDC ออกโดย “ธนาคารกลาง” ของแต่ละประเทศ และเข้าข่ายนิยามความเป็นเงินอย่างครบถ้วน คือ

1) เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน และสามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย

2) เป็นที่เก็บรักษามูลค่า คือมีมูลค่ามั่นคง

3) เป็นหน่วยวัดมูลค่าของทั้งสินค้าและบริการ

ในทางตรงกันข้าม คริปโทเคอร์เรนซี เช่น บิทคอยน์ คือ สินทรัพย์ดิจิทัลที่สร้างขึ้นด้วย “เทคโนโลยีบล็อกเชน” โดยมุ่งหวังเป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยนแทนที่เงินสกุลปกติ

แต่ไม่เข้าข่ายคุณสมบัติความเป็นเงินและไม่มีกฎหมายรองรับให้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ขณะที่สเตเบิลคอยน์ เช่น ลิบร้า คล้ายกับคริปโทเคอร์เรนซี คือ ออกโดยเทคโนโลยีบล็อกเชน และไม่มีกฎหมายรองรับให้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายเช่นกัน แต่มีเงินสกุลปกติ หลักทรัพย์ หรือทรัพย์สิน (เช่น ทองคำ) ค้ำประกันให้มูลค่ามีความไม่แน่นอนลดลงบ้าง

 

สมัคร XM

exness รีวิว

สมัคร Exness

โบรกเกอร์ Exness

 

 

 

 

 

 

- Advertisement -spot_img
บทความที่เกี่ยวข้อง
- Advertisement -spot_img
spot_img
spot_img
บทความล่าสุด